“นอนนอน” พลิกธุรกิจคว้าเงินล้าน ไม่ขายแต่ให้เช่า
"นอนนอน" ต่อยอดธุรกิจสุดปัง! โมเดลใหม่หนึ่งเดียวในโลก
ในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 ของธุรกิจที่นอนที่มีประวัติอันยาวนานกว่าเกือบ 90 ปี นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรและแบ่งปันประสบการณ์ด้านการสานต่อธุรกิจครอบครัว พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับทายาทธุรกิจครอบครัวอื่นๆ เกือบ 200 ท่าน ภายใต้หัวข้อ “การเปลี่ยนความคิดคนรุ่นพ่อแม่” ใน งานทายาทรุ่นสอง ตอน “โจทย์สามัญประจำบ้าน” ที่จัดโดย The Cloud นิตยสารออนไลน์ที่มีผู้อ่านมากที่สุดของไทย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ล้ง 1919 กรุงเทพฯ
ผู้ร่วมเข้าเป็นวิทยากรอื่นๆ ได้แก่
- ชาตยา สุพรรณพงศ์ ทายาทรุ่นสอง บาร์บีคิว พลาซ่า
- ธนัฐณ์ วิทย์ภิรมย์ ทายาทรุ่นสอง บริษัทค้าส่งแว่นตา M.S Optic ผู้ก่อตั้งร้านแว่นตา OCCURA
- จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ ทายาทรุ่นสาม SC Grand
- ภคมน สมบูรณ์เวชชการ ทายาทรุ่นสอง D’Oro
- กมลพงศ์ สงวนตระกูล ทายาทรุ่นสาม โตโยต้าขอนแก่น
งานดังกล่าวถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของ The Cloud ที่ถูกจัดขึ้นเพื่อช่วย "ส่งต่อความตั้งใจและความเชี่ยวชาญของธุรกิจครอบครัวไทย เริ่มจากการเรียนรู้ของคนรุ่นก่อน แล้วต่อยอดอย่างสร้างสรรค์โดยคนรุ่นถัดมา [และ] ส่งเสริมการรับช่วงต่อธุรกิจที่ดีให้เติบโตและยั่งยืนคู่สังคมไทย"
อ่านบทกลั่นกรองประสบการณ์การทำธุรกิจของวิทยากรแต่ละท่านได้บน The Cloud และ The Matter
นอนนอน ในนาม บริษัท เซอร์คิวลาร์ริตี จำกัด เป็นหนึ่งใน 30 SME และ startup ที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม โครงการประกวดสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทย “นิลมังกร แคมเปญ” รอบชิงแชมป์ภูมิภาค ภาคกลาง ที่จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมกับศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2564
นอนนอนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 101 ไอเดียเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (101 Ideas for Sustainable Tourism) จากเมืองต่างๆ ทั่วโลก โดย โกเทบอร์ค แอนด์ โค (Göteborg & Co) หน่วยงานส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยวของกอเทนเบิร์ก (Gothenburg) นครใหญ่อันดับสองของสวีเดนและ European Capital of Smart Tourism 2020
ไอเดียที่รับการคัดเลือก "มีความเกี่ยวโยงกับวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวในเขตเมือง และมีความสร้างสรรค์และนวัตกรรมในระดับสูง โดย....ถูกจำแนกตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals)"
คลิก ที่นี่ เพื่อดูไอเดียและนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอื่นๆ จากนักธุรกิจเพื่อสังคม ผู้ก่อตั้งธุรกิจที่มีนวัตกรรม และบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและที่พักระดับโลก
ในฐานะนักธุรกิจที่ได้พัฒนาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากแนวคิดเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมอภิปรายในหัวข้อ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม - โอกาสสำหรับธุรกิจ (Sustainability - An Opportunity for Businesses) ในงานเปิดตัว AIT Enterprises Alliance (AEA) ช่องทางสื่อสารและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology หรือ AIT) และภาคธุรกิจ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ AIT ปทุมธานี โดยมีผู้เข้าร่วมอภิปรายอีกสองท่าน ได้แก่ เจมี่ เบรนแนน (Jamie Brennan) ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ Loyalty Product และสินค้าไลฟ์สไตล์ กลุ่มทรู ดิจิทัล (True Digita Group) และ ทิม เฟิง (Tim Feng) ประธานบริษัทดีป ไดฟ์ (Deep Dive)
เครือข่าย AEA มีเป้าหมายที่จะสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่าง AIT และภาคธุรกิจ พร้อมสร้างโอกาสสำหรับการร่วมมือแบบพหุภาคีระหว่างสมาชิกเครือข่าย
“nornnorn” ต่อยอดธุรกิจครอบครัว ด้วยสตาร์ทอัพให้เช่าที่นอนคุณภาพสูง
จับวิธีคิด ย้อนยุคธุรกิจที่นอนอายุ 88 ปีกับทายาทรุ่น 4
ในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคการท่องเที่ยว นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเกียรติให้แบ่งปันรูปแบบการดำเนินธุรกิจของนอนนอนในช่วง “ผลกระทบของโควิด-19 ต่อการท่องเที่ยว: รูปแบบการอุปโภคบริโภคและการผลิตในอนาคต: กรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ” ใน webinar “การผลิตและการอุปโภคบริโภคที่ยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยว: โอกาสและความท้าทาย” ของ SWITCH-Asia เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีโทโมฮิโระ ฮามากาว่า (Tomohiro Hamakawa) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง มานะ เอิร์ธลี พาราไดส์ (Mana Earthly Paradise) รีสอร์ทรักษ์ธรรมชาติบนเกาะบาหลี อินโดนีเซีย ที่เป็นลูกค้าของนอนนอนและเป็นหนึ่งในธุรกิจให้บริการที่พักที่มีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก ร่วมด้วย
Webinar ดังกล่าวได้ถูกจัดขึ้นโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ร่วมกันสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) โดยมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบหลักๆ ที่โควิด-19 มีต่อการท่องเที่ยว โอกาสที่การผลิตและการอุปโภคบริโภคที่ยั่งยืนจะช่วยภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งและมีความสามารถในการรองรับความเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้น และความจำเป็นในการใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในการผลิต การบริโภคอาหาร และการอุปโภคพลาสติกในภาคการท่องเที่ยว
SWITCH-Asia เป็นโครงการเพื่อสนับสนุนการอุปโภคบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืนในเอเชียที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป โดยได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2551
จากการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 400 ผู้นำรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีจากทั่วทั้งเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการบรรจุชื่อในทำเนียบ ผู้นำแห่งอนาคต (Generation T) ของแทตเลอร์ เอเชีย ประจำปี 2563 (Tatler Asia Leaders of Tomorrow (Generation T) 2020)
"จากการคัดกรองอย่างถี่ถ้วน ท่านได้รับการคัดเลือกเนื่องจากความสำเร็จและการริเริ่มของท่านในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาที่ชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นบุคคลที่กำลังขับเคลื่อนสังคมไทยและเอเชีย" ทามาระ ลามูนิเยร์ (Tamara Lamunière) ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและผู้อำนวยการ Generation T เอเชียกล่าว
ทั้งนี้ แทตเลอร์ เอเชีย กลุ่มสื่อลักซ์ชัวรี่ (luxury) อันดับหนึ่งของเอเชีย ได้จัดทำทำเนียบดังกล่าวขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2559 โดยมีกองบรรณาธิการของแทตเลอร์ เอเชีย เป็นผู้นำเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมจากฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย และไทย โดยการบรรจุรายชื่อที่ได้รับการคัดเลือกนั้นต้องผ่านการยืนยันโดยคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้นำจากอุตสาหกรรมต่างๆ
แทตเลอร์ เอเชีย จะเปิดตัว Generation T 2020 ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
จากการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 คนที่ได้รับบรรจุชื่อในทำเนียบ The Future List ทำเนียบแรกของแทตเลอร์ ประเทศไทย (Tatler Thailand) นิตยสารลักซ์ชัวรี่อันดับหนึ่งของประเทศ
"เราอยาก [...] ที่จะยกย่องคนไทยที่ปราดเปรื่องที่สุด 100 ท่าน ซึ่งถือเป็นกลุ่มบุคคลที่เราเชื่อว่าจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงประเทศให้ไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต โดยการคัดเลือก [กลุ่มบุคคล] นี้ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของอายุ สถานะทางสังคม ความมั่งค่ำ หรือชาติตระกูลที่มีชื่อเสียงของบุคคลนั้นๆ เราเพียงแต่อยากที่จะฉายแสงให้ส่องไปถึงคนไทยที่เราเชื่อว่ากำลังกระทำการเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับคนหมู่มากในอนาคตข้างหน้า" ม.ร.ว. อุษณิษา สุขสวัสดิ์ ผู้จัดการโครงการ The Future List 2020 กล่าว
ในฐานะนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ในการก่อตั้งและขับเคลื่อนธุรกิจที่อยู่บนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเกียรติให้แบ่งปันรูปแบบการดำเนินธุรกิจของนอนนอนให้ข้าราชการจากกระทรวงวางแผนและการลงทุนของลาว รวมกว่า 40 ท่าน ใน “Workshop เศรษฐกิจหมุนเวียน: ค้นหาโอกาสสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (2564-2568) ของ สปป. ลาว” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ นครหลวงพระบาง โดยมี กะลุนา นะถานวงดวงสี (Kalouna Nathanvongduangsy) รองอธิบดี กรมวางแผน กระทรวงวางแผนและการลงทุน สปป. ลาว ให้เกียรติเป็นประธาน
ทั้งนี้ workshop ดังกล่าวได้ถูกจัดขึ้นโดยมูลนิธิฮานส์ เซเดล (Hanns Seidel Foundation)
เนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ นพพลได้ทำการบรรยายผ่าน Zoom จากกรุงเทพฯ
จากร้านที่นอนนุ่นในพาหุรัดเมื่อ 88 ปีที่แล้ว สู่นอนนอนในวันนี้
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ในฐานะหนึ่งในธุรกิจที่ร่วมมุ่งมั่นสร้างอนาคตที่มีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม นอนนอนได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมและเป็นพันธมิตรโครงการ Climate Neutral Now โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ (UN Climate Change initiative) ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2558 ที่มีเป้าหมายช่วยสนับสนุนทุกภาคส่วนของสังคมให้กระทำการเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอันเนื่องมาจากภาวะเรือนกระจกภายในปี 2593
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า มนุษยชาติมีเวลาเหลืออีกเพียงสิบปีที่จะยับยั้งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่จะนำมาซึ่งความหายนะเหนือประมาณ การยับยั้งดังกล่าวยังเป็นได้หากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคล องค์กร หรือตัวแทนประเทศ
ดังนั้น นอนนอนจึงร่วมกับองค์กรชั้นนำที่รักษ์สิ่งแวดล้อมจากทั่วโลกกว่า 300 องค์กร ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ (Microsoft) โซนี่ (Sony) อินโฟซิส (Infosys) เอสเอพี (SAP) บีเอ็นพี พาริบาส์ (BNP Paribas) อมาเดอุส (Amadeus) บูพา (Bupa) และทรูฟิต แอนด์ ฮิลล์ (Truefitt & Hill) ในการลงมืออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อการดังกล่าว
จากการเข้าร่วมโครงการฯ นอนนอนสามารถคำนวณและชดเชยปริมาณคาร์บอนทั้งหมดที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ (carbon footprint) จากการดำเนินธุรกิจของเราในปี 2562 โดยนอนนอนได้ชดเชยการปล่อยคาร์บอนดังกล่าวด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต (carbon credit) ที่ได้รับการยอมรับโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UN Climate Change Convention) ผ่าน กลไกการพัฒนาที่สะอาดขององค์การสหประชาชาติ (UN Clean Develpment Mechanism) ซึ่งเป็นกลไกที่เอื้อให้โครงการในประเทศกำลังพัฒนาที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม แสง น้ำ หรือชีวมวล สามารถได้รับ คาร์บอนเครดิตที่ผ่านการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (certified emission reduction credit หรือ เครดิต CER) โดย CER หนึ่งเครดิตจะเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่โครงการดังกล่าวช่วยยับยั้งมิให้ถูกปล่อยออกไปในชั้นบรรยากาศ 1 ตัน
นอกจากนี้ เรายังได้วางแผนลดปริมาณคาร์บอนที่จะเกิดจากการดำเนินธุรกิจของเราในอนาคตอีกด้วย
และในฐานะพันธมิตรของโครงการฯ นอนนอนยังมีหน้าที่สนับสนุนองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคให้วัด ชดเชย และลดปริมาณคาร์บอนที่ถูกปล่อยออกมา โดยคุณสามารถคำนวณและชดเชยปริมาณคาร์บอนกับเราได้แล้ววันนี้ เพื่อร่วมช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา
หรือคุณสามารถคำนวณปริมาณคาร์บอนที่คุณปล่อยออกมาเองง่ายๆ ได้ที่ UN carbon footprint calculator และชดเชยปริมาณคาร์บอนดังกล่าวในราคาเริ่มต้นเพียงตันละ US$0.70
นอนนอนได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 12 สตาร์ทอัพจาก 260 สตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจาก 70 ประเทศทั่วโลก ให้เข้าร่วม ค่ายนวัตกรรมสตาร์ทอัพของสภาการท่องเที่ยวโลกแห่งลูเซิร์น ปี 2563 (World Tourism Forum Lucerne Start-up Innovation Camp 2020) โดยเราจะนำเสนอรูปแบบธุรกิจของเราที่รัฐราสอัลไคมาห์ (Ras Al Khaimah) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ค่ายนวัตกรรมสตาร์ทอัพเป็นโครงการประจำปีของ สภาการท่องเที่ยวโลกแห่งลูเซิร์น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม (platform) ชั้นนำจากสวิสเซอร์แลนด์ที่นำผู้บริหารระดับสูง รัฐมนตรี นักวิชาการ นักการเงิน สตาร์ทอัพ และผู้นำรุ่นใหม่ มารวมตัวกันเพื่อพูดคุยถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมการเดินทาง การท่องเที่ยว และการโรงแรมจะต้องเผชิญในอนาคต รวมทั้งเพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ค่ายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นระบบนิเวศนวัตกรรมในอุตสาหกรรม ด้วยการเชื่อมโยงผู้สร้างนวัตกรรมเข้ากับผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม และช่วยให้นวัตกรรมดังกล่าวได้รับการขยายผลและกลายเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นธุรกิจที่ใช้ได้จริง
[ ล่าสุด ณ วันที่ 26 เม.ย. 2564: นอนนอนจะเข้าร่วม ค่ายนวัตกรรมสตาร์ทอัพของสภาการท่องเที่ยวโลกแห่งลูเซิร์น ปี 2564 (World Tourism Forum Lucerne Start-up Innovation Camp 2021) ที่เมืองอันดาแมท (Andermatt) สวิสเซอร์แลนด์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้แทน ]
ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ในประเทศไทย นอนนอนได้เข้าร่วมอภิปรายในหัวข้อ “นวัตกรรมสำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียน: ปลดล็อคโอกาสในการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทย” (Innovations for a Circular Economy: Unlocking Business Opportunities for Driving Towards a Circular Economy in Thailand) ในงานสัปดาห์แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไทย-ญี่ปุ่น (Thailand-Japan Environmental Solutions Week) ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา โดยการอภิปรายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะนำองค์กรจากภาคเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการส่งเสริมสตาร์ทอัพในภาคธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียน
งานสัปดาห์แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไทย-ญี่ปุ่นได้ถูกจัดขึ้นโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย และการอภิปรายดังกล่าวได้ถูกจัดขึ้นโดยสำนักงานส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคของ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme)
เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับคัดเลือกโดยบริติช เคานซิล (British Council) ให้เป็น 1 ใน 4 ผู้ได้รับ รางวัลรองชนะเลิศศิษย์เก่าสหราชอาณาจักรดีเด่น สาขาผู้ประกอบธุรกิจ (ประเทศไทย) ปี 2563 (UK Alumni Entrepreneurial Award (Thailand) 2020) จากผลงานการขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านนอนนอน โดยรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มอบให้ศิษย์เก่าสหราชอาณาจักรที่คิดค้นและริเริ่มแนวคิดนวัตกรรมใหม่ หรือแนวทางและโอกาสทางธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ ที่มาพร้อมศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมั่นคง
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นพพล เตชะพันธ์งาม ผู้ก่อตั้งและ CEO ของนอนนอน ได้รับเกียรติจาก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ให้แบ่งปันประสบการณ์จากการก่อตั้งและขับเคลื่อนนอนนอนให้กลุ่มเยาวชนฟัง ในช่วง “Dare to Unlock” ในงาน “Dare to Dream Fest: ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต” ณ Lido Connect กรุงเทพฯ
โดยงานดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะยกระดับความรับรู้ในด้านทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตในกลุ่มเยาวชนไทย และเป็นส่วนหนึ่งของ Dare to Dream โครงการขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนจากทั่วประเทศได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยและการเรียนการสอนทักษะที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมพร้อมสู่ชีวิตในอนาคต โดยภายในงานมีนักพูดรุ่นเยาว์และผู้เชี่ยวชาญมาเล่าประสบการณ์การฝึกฝนและพัฒนาทักษะสู่ความสำเร็จให้เยาวชนฟัง
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นอนนอนได้รับเชิญให้นำเสนอรูปแบบธุรกิจของเราให้กับธุรกิจ ตัวแทนจากมูลนิธิ และนักลงทุนมากกว่า 120 รายที่สนใจที่จะลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate change) ในงาน “Asia Impact Nights 2019” ณ เกาะเจจู (Jeju Island) ประเทศเกาหลีใต้
โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะระดมทุน รูปแบบธุรกิจ และเทคโนโลยีเพื่อตอบรับวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติ
งาน Asia Impact Nights 2019 ถูกจัดขึ้นโดย TONIIC เครือข่ายที่รวมผู้ถือครองความมั่งคั่งระดับสูง (high net worth individual) สำนักงานบริหารความมั่งคั่งของครอบครัว (family office) และมูลนิธิที่ครอบครองทรัพย์สินของตัวเอง (foundation asset owner) ที่ประสงค์จะใช้ทุนและทรัพยากรส่วนตัวในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับโลก รวมกว่า 400 รายจาก 25 ประเทศทั่วโลก และ D3 Jubilee Partners บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุนเพื่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก (impact venture capital) ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) สหรัฐอเมริกา
นอนนอนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50+ สตาร์ทอัพระดับโลกที่ช่วย "เปลี่ยนระบบนิเวศเทคโนโลยีการเดินทางให้มีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น" โดย TNMT นิตยสารออนไลน์สำหรับผู้สร้างนวัตกรรมดิจิตัลด้านการเดินทางระดับแนวหน้า
คลิกที่นี่ เพื่อดูรายชื่อสตาร์ทอัพอื่นๆ ที่ถูกคัดเลือก